ไอติมกะทิ คือขนมหวานที่มีกลิ่นหอมหวานของกะทิ และรสชาติที่หวานเข้มข้น มักนิยมทำจากส่วนผสมหลักๆ คือกะทิ,น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ และไข่ไก่ เนื่องจากกลิ่นหอมของกะทิและรสชาติหวานที่อร่อยนั้น ทำให้ไอติมกะทิเป็นที่นิยมในหมู่ชาวไทยอย่างมาก
วิธีการทำไอติมกะทินั้น มักจะใช้วัตถุดิบที่เป็นเนื้อแท้จริงๆ ในกระบวนการผลิต โดยใส่กะทิลงในหม้อต้ม และใส่น้ำตาลลงไปคนจนเกลือละลาย จากนั้นนำไปต้มในไฟอ่อนๆ พร้อมคนให้ส่วนผสมผสานกัน หลังจากนั้นใช้ไข่ไก่คนให้เข้ากันและคนจนเนื้อไข่เริ่มหนืด จากนั้นนำไปทำต่อในเครื่องทำไอติมโดยการแช่ถังดับเบิ้ลเพื่อทำให้เกิดความหนืดที่ดีกว่า และทำให้ไอติมกะทิมีลักษณะเนื้อนุ่ม
ไอติมกะทิอาจจะถูกบรรจุใส่ภาชนะต่างๆ เพื่อนำไปขายในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทย นอกจากนี้ ไอติมกะทิยังเป็นเมนูที่ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน หรือสามารถหาซื้อได้ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายของต่างๆ โดยอาจมีรสชาติเสริมตามความชอบเช่น ไอติมกะทิมะม่วง ไอติมกะทิไข่เค็ม
ประวัติความเป็นมาของไอติมกะทิ
การทำไอติมกะทิมีต้นกำเนิดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมะพร้าวมากที่สุดในประเทศ ซึ่งกะทิที่ผลิตจากมะพร้าวมีคุณภาพที่ดีและมีกลิ่นหอมของมะพร้าวที่เน้นความหวานเข้มข้น ประวัติของไอติมกะทิยังคงเป็นเรื่องที่น่าศึกษาและน่าสนุก เนื่องจากเป็นขนมหวานที่ทำจากส่วนผสมที่เป็นท้องถิ่น มีความหอมหวานและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมะพร้าว นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่คนไทยชื่นชอบในช่วงของหน้าร้อน และมักนำไปขายในที่ท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลองชิมรสชาติและความหอมหวานของไอติมกะทิ
ขั้นตอนและวิธีของการทำ ไอติมกะทิ
ส่วนผสม :
- กะทิ 2 ถ้วย ( ปริมาณกะทิสามารถปรับตามความต้องการ )
- น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย ( สามารถปรับปริมาณตามรสชาติที่ต้องการ )
- ใบเตย 3-4 ใบ ( สำหรับเพิ่มกลิ่นหอม )
- ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำ :
– นำกะทิไปต้มในหม้อต้ม ใส่น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ และใบเตยลงไปคนจนน้ำตาลละลายและกะทิเริ่มเดือด ต้องคอยคนเรื่อยๆ เพื่อให้น้ำตาลละลายทั่วกันและไม่ติดก้นหม้อ
– เมื่อกะทิเริ่มเดือดและน้ำตาลละลายแล้ว ปิดไฟและเก็บไว้ให้เย็น
– ในช่วงเวลาที่กะทิกำลังเย็นอยู่ คนไข่ไก่ให้เข้ากันกับน้ำตาล จนไข่เนื้อหนืดเป็นครีม
– เมื่อกะทิเย็นและไข่ครีมพร้อม นำกะทิที่ต้มและไข่ครีมไปคนให้เข้ากัน ควรคนให้เข้ากันอย่างดี เพื่อให้ได้เนื้อไอติมที่หนืด
– เพิ่มเกลือลงในกะทิที่คนแล้ว คนให้เข้ากันอีกครั้ง
– นำไอติมกะทิที่เตรียมเสร็จแล้วไปใส่ในตู้แช่ โดยแช่ไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมงหรือจนกว่าไอติมจะเนื้อหนืดและเย็น
– เสิร์ฟไอติมกะทิและเสริมด้วยผลไม้หรือเครื่องตกแต่งตามความชอบ เช่น มะม่วงสุก,กล้วยหอม หรือกราโนล่า
ไอติมกะทิคือขนมหวานที่มีกลิ่นหอมของกะทิ และรสชาติหวานเข้มข้น มักนิยมทำและรับประทานในประเทศไทย การทำไอติมกะทิมักใช้ส่วนผสมหลักคือกะทิ ของหวานนี้สามารถเสิร์ฟกับผลไม้หรือเครื่องเคียงตามความชอบ ไอติมกะทิมีประวัติที่เก่าแก่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย ที่มีการปลูกมะพร้าวมากที่สุดและถือเป็นที่มาของไอติมนี้ ตามความนิยมไอติมกะทิยังคงเป็นที่นิยมและเป็นของหวานที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยต้องการลองกินและหาชิมกัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไอติมกะทิ
- ไอติมกะทิทำจากส่วนผสมอะไรบ้าง?
- ส่วนผสมหลักของไอติมกะทิประกอบด้วยกะทิที่ได้จากมะพร้าว,น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ,ไข่ไก่ และเกลือ
- มีวิธีการทำไอติมกะทิอย่างไร?
- ขั้นตอนการทำไอติมกะทิประกอบด้วยการต้มกะทิกับน้ำตาล ใส่ไข่คนให้เข้ากัน ใส่เกลือคนให้เข้ากัน นำไปทำให้เป็นไอติมโดยใช้เครื่องตีให้เกิดความหนืดและเนื้อนุ่ม ส่วนผสมที่เตรียมเสร็จแล้วนำไปใส่ในตู้แช่
- ไอติมกะทิมีประวัติย้อนหลังยาวนานมากแค่ไหน?
- ไอติมกะทิมีประวัติที่เก่าแก่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย ซึ่งกะทิที่ผลิตจากมะพร้าวมีคุณภาพที่ดีและกลิ่นหอมของมะพร้าว อันเป็นที่มาของไอติม
- ไอติมกะทิมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร?
- ไอติมกะทิมีประโยชน์ทางโภชนาการในเรื่องของพลังงานจากกะทิและน้ำตาล แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีรสหวานเข้มข้นและมีไขมันสูง การบริโภคควรควบคู่กับการรับประทานอาหารอื่นๆ อย่างดีเพื่อสุขภาพในระยะยาว
บทความที่น่าสนใจ : ขอสินเชื่อ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อและสินเชื่อที่เหมาะกับคุณ